อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูงสุดด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน ด้วยลักษณะงานที่ต้องเผชิญกับอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และโรคจากการทำงาน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) ได้กำหนดแนวทางและมาตรฐานเพื่อปกป้องแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างจากอันตรายต่าง ๆ โดยมาตรฐานเหล่านี้ได้รับการนำไปใช้ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำงานและลดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด
ความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในงานก่อสร้าง
อุตสาหกรรมก่อสร้างมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ เนื่องจากลักษณะงานที่ต้องทำในที่สูง ใช้อุปกรณ์หนัก และเกี่ยวข้องกับวัสดุที่เป็นอันตราย ทำให้มาตรฐานของ ILO ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่แรงงาน ตัวอย่างอันตรายที่มักเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ได้แก่:
- การตกจากที่สูง
- การถูกวัสดุตกใส่
- การใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์อย่างไม่ปลอดภัย
- การสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตราย
- ภาวะความเครียดจากความร้อนและการทำงานหนักเกินไป
มาตรฐาน ILO ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของแรงงานก่อสร้าง
ILO ได้ออกอนุสัญญาและข้อแนะนำหลายฉบับ เพื่อคุ้มครองแรงงานก่อสร้าง โดยที่สำคัญ ได้แก่:
1. อนุสัญญาว่าด้วยความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในงานก่อสร้าง ค.ศ. 1988 (C167)
-
- กำหนดให้มีมาตรการป้องกันอันตรายที่เหมาะสม
- ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยแก่แรงงาน
- ระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้องกันการตกจากที่สูง การใช้เครื่องจักร และการจัดการวัสดุที่เป็นอันตราย
2. ข้อแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยและสุขภาพในการก่อสร้าง (R175)
-
- สนับสนุนให้มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้าง
- ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานประกอบการ
- เน้นการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำงาน
3. อนุสัญญาว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพในการทำงาน (C155)
-
- กำหนดให้รัฐบาลและนายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของแรงงาน
- แรงงานมีสิทธิได้รับการฝึกอบรมและอุปกรณ์ป้องกันอันตราย
การนำมาตรฐานของ ILO มาใช้ในประเทศไทย ยัไงไงบ้าง
ประเทศไทยได้ปรับใช้แนวทางของ ILO ผ่านกฎหมายและมาตรฐานของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เช่น พ.ร.บ. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการสำคัญที่ใช้ปกป้องแรงงานก่อสร้าง ได้แก่:
- การกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) คอยตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย
- ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE)
- มาตรฐานการทำงานบนที่สูง การใช้เครน และเครื่องจักรหนัก
- การตรวจสอบและควบคุมสารเคมีที่ใช้ในงานก่อสร้าง
แนวทางปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในงานก่อสร้าง
การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยในอุตสาหกรรมก่อสร้างสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้:
1. ฝึกอบรมด้านความปลอดภัย
-
- แรงงานควรได้รับการอบรมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
- การฝึกซ้อมสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การอพยพและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
2. ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ป้องกันอันตราย
-
- ใช้โครงสร้างนั่งร้านที่ได้มาตรฐานและติดตั้งระบบป้องกันการตกจากที่สูง
- ให้พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น หมวกนิรภัย ถุงมือ และรองเท้านิรภัย
3. จัดการความเสี่ยงและการตรวจสอบสถานที่ทำงาน
-
- นายจ้างควรมีแผนการประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ
- มีการตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างและเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ
4. ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัย
-
- สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้แก่พนักงาน
- สนับสนุนให้แรงงานมีส่วนร่วมในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน
สรุป
สุขภาพและความปลอดภัยของแรงงานก่อสร้างเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับความใส่ใจ เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างมีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน แนวทางและมาตรฐานของ ILO มีบทบาทสำคัญในการป้องกันอันตรายและส่งเสริมความปลอดภัยให้แก่แรงงาน ประเทศไทยได้นำมาตรฐานเหล่านี้มาปรับใช้ผ่านกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเข้มงวดและการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แรงงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อ้างอิง
- International Labour Organization. (1988). “C167 – Safety and Health in Construction Convention, 1988 (No. 167).”
- International Labour Organization. (1988). “R175 – Safety and Health in Construction Recommendation, 1988 (No. 175).”
- กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2554). “พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554”
บทความที่น่าสนใจ
- ข้อควรรู้ก่อนใช้งานนั่งร้าน ในงานก่อสร้าง
- วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
- ข้อควรรู้การขึ้นทะเบียน จป ต่อกรมวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
- เทคนิคการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าในสถานที่ทำงาน